ประกันวินาศภัยสำหรับลูกค้าองค์กร

ประกันรถยนต์แบบกลุ่ม

การทำประกันภัยรถยนต์ที่บริษัท องค์กร หรือสมาคม จัดให้กับกลุ่มบุคคล เช่น พนักงาน สมาชิก หรือกลุ่มลูกค้าขององค์กร เพื่อให้สามารถซื้อประกันในราคาพิเศษที่ถูกกว่าการซื้อรายบุคคล เพราะเป็นการรวมกลุ่มซื้อ ทำให้บริษัทประกันสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น

เหมาะสำหรับ

• พนักงานในองค์กรที่มีสวัสดิการประกันกลุ่ม
• สมาชิกของสมาคมหรือกลุ่มลูกค้าของบริษัทต่าง ๆ
• ผู้ที่ต้องการประกันราคาคุ้ม พร้อมบริการครบและสะดวก

ข้อดีของประกันรถยนต์แบบกลุ่ม

1. เบี้ยประกันถูกกว่า ได้ส่วนลดพิเศษจากการรวมกลุ่ม
2. สิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น ค่าชดเชยพิเศษ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือสิทธิ์ตรวจเช็ครถฟรี
3. สะดวก รวดเร็ว ทำผ่านองค์กรหรือนายจ้าง ไม่ต้องดำเนินการเอง
4. ลดข้อจำกัดในการรับประกัน ผู้ที่มีความเสี่ยงบางกลุ่มอาจได้รับสิทธิทำประกันได้ง่ายขึ้น
5. บริการครอบคลุมครบวงจร มีบริการเสริมจากบริษัทประกัน เช่น รถสำรองระหว่างซ่อม หรือบริการ 24 ชม.

ทำไมควรเลือกประกันรถยนต์แบบกลุ่ม

1. ประหยัดค่าใช้จ่าย จากอัตราพิเศษของกลุ่ม
2. คุ้มครองครบถ้วน ไม่ต่างจากประกันรายบุคคล
3. ทำได้ง่ายและสะดวก บางแห่งสามารถหักจากเงินเดือนหรือสมัครผ่านช่องทางออนไลน์
4. มั่นใจในมาตรฐาน เพราะเป็นแผนที่องค์กรคัดสรรให้กับพนักงานหรือสมาชิกโดยเฉพาะ

ประกันการก่อสร้าง

ประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้านพักอาศัย หรือโครงการขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน ถนน หรือสะพาน ประกันนี้ช่วยป้องกันความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ความผิดพลาดจากการทำงาน หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลที่สาม

เหมาะสำหรับ

• ผู้รับเหมา หรือผู้ประกอบการก่อสร้าง
• เจ้าของโครงการ หรือผู้ลงทุน
• หน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชนที่มีงานก่อสร้างขนาดใหญ่

ข้อดีของประกันการก่อสร้าง



1. คุ้มครองความเสียหายต่อโครงการ เช่น ความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ
2. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการหยุดงาน หากเกิดเหตุทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก ประกันจะช่วยชดเชยความเสียหายบางส่วน
3. คุ้มครองบุคลากรในโครงการ รวมถึงความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของผู้ปฏิบัติงานระหว่างการก่อสร้าง

ทำไมต้องทำประกันการก่อสร้าง

1. ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
2. ป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ ความผิดพลาด หรือการทุจริตของผู้รับเหมา
3. สร้างความมั่นใจให้ผู้ว่าจ้างและนักลงทุน
4. ทำให้มั่นใจว่าโครงการสามารถดำเนินต่อได้ แม้เกิดเหตุไม่คาดคิด
5. ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
6. โครงการก่อสร้างบางประเภทจำเป็นต้องมีประกันตามที่กฎหมายหรือสัญญากำหนด เพื่อคุ้มครองทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน

ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของ โรงงาน อาคาร คอนโด หรือสำนักงาน จากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว การระเบิด หรือการขโมย

ถือเป็นประกันภัยที่คุ้มครอง ครอบคลุมที่สุด สำหรับทรัพย์สินทางธุรกิจและอุตสาหกรรม

เหมาะสำหรับ

• เจ้าของโรงงานและนิคมอุตสาหกรรม
• เจ้าของอาคารพาณิชย์ คอนโด หรือสำนักงาน
• ผู้ประกอบการที่ต้องการลดความเสี่ยงทางทรัพย์สินและการเงิน

ข้อดีของการทำประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน

1. คุ้มครองครอบคลุมทุกความเสี่ยงหลัก ทั้งภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ) และเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ เช่น ไฟไหม้ การระเบิด หรืออุบัติเหตุจากเครื่องจักร
2. ลดผลกระทบทางธุรกิจ หากเกิดเหตุจนต้องหยุดการผลิตหรือปิดกิจการชั่วคราว ประกันจะช่วยชดเชยรายได้และค่าใช้จ่ายในช่วงหยุดดำเนินงาน
3. คุ้มครองทรัพย์สินสำคัญทั้งหมด เช่น อาคาร โรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์สำนักงาน หรือทรัพย์สินภายในอาคาร

4.ลดความเสี่ยงด้านการเงิน เมื่อเกิดความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือทดแทนทรัพย์สินอาจสูงมาก ประกันช่วยรับภาระส่วนนี้แทน

5.ป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมาย หากอุบัติเหตุจากทรัพย์สินของคุณส่งผลต่อบุคคลภายนอก เช่น ความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน ประกันจะช่วยรับผิดชอบค่าเสียหายตามที่กำหนด

6.เสริมความเชื่อมั่นต่อผู้เช่าหรือคู่ค้า สำหรับเจ้าของอาคารหรือคอนโดที่ให้เช่า การมีประกัน IAR ช่วยสร้างความมั่นใจว่าทรัพย์สินจะได้รับการซ่อมแซมและดูแลทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดคิด

ประกันผู้ประกอบการ SME

ประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับความคุ้มครองจากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น

• ความเสียหายจากอัคคีภัย
• การโจรกรรม
• ความรับผิดทางกฎหมาย
• อุบัติเหตุจากการทำงาน
• หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ

โดยมีทั้งแผนที่คุ้มครอง ทรัพย์สินของธุรกิจ และ ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจและต่อเนื่อง

เหมาะสำหรับ

• เจ้าของกิจการ SME ทุกประเภท
• ธุรกิจร้านค้า โรงงานขนาดเล็ก หรือสำนักงาน
• ผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างความมั่นคงและน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ

ข้อดีของประกันผู้ประกอบการ SME

1.คุ้มครองทรัพย์สินทางธุรกิจ

ครอบคลุมความเสียหายต่ออาคาร เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือสินค้าในกรณีเกิดอัคคีภัย น้ำท่วม หรือเหตุไม่คาดคิด

2.คุ้มครองความรับผิดทางกฎหมาย

หากธุรกิจถูกฟ้องร้องจากลูกค้าหรือคู่ค้า เนื่องจากความผิดพลาดในการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ ประกันจะช่วยรับผิดชอบค่าเสียหายและค่าทนาย

3.คุ้มครองภัยไม่คาดคิดอื่น ๆ

เช่น อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือเหตุที่ทำให้กิจการต้องหยุดชะงักชั่วคราว

4.เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ

การมีประกันช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าและพันธมิตร ว่าธุรกิจมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

5.ลดภาระทางการเงิน

หากเกิดเหตุร้ายแรงที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการซ่อมแซมหรือชดเชย ประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระ ทำให้ธุรกิจไม่สะดุด

ทำไมควรทำประกันผู้ประกอบการ SME

1.ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ

โดยเฉพาะ SME ที่มีทุนจำกัด การทำประกันช่วยปกป้องธุรกิจจากเหตุที่อาจทำให้สูญเสียรายได้หรือทรัพย์สิน

2.เพิ่มความมั่นใจในการดำเนินงาน

เจ้าของธุรกิจสามารถโฟกัสที่การเติบโตได้เต็มที่ เพราะมีหลักประกันรองรับความเสี่ยง

3.สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายหรือคู่ค้า

ในบางอุตสาหกรรม การมีประกันถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมงานหรือรับรองมาตรฐานธุรกิจ

4.เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ

ประกันช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นและประเมินความเสี่ยงของธุรกิจได้ชัดเจนมากขึ้น

ประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

ประกันภัยที่คุ้มครอง ความเสียหายที่ผู้เอาประกันก่อให้เกิดกับบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน การดำเนินธุรกิจ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลให้บุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย

ข้อดีของประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

1. คุ้มครองค่าเสียหายและค่าชดเชย หากบุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายจากการดำเนินธุรกิจของคุณ
2. ลดภาระค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย ครอบคลุมค่าทนายและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี
3. สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและคู่ค้า แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
4. ป้องกันผลกระทบทางการเงิน ช่วยให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อได้แม้เกิดเหตุไม่คาดคิด

ทำไมควรทำประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

• ช่วย ปกป้องธุรกิจจากการฟ้องร้องและค่าเสียหายสูง
• เหมาะกับธุรกิจที่ต้องติดต่อกับลูกค้า บุคคลภายนอก หรือมีสถานที่ให้บริการ
• เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่สำคัญของทุกองค์กร

ประกันความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์

การประกันภัยที่คุ้มครอง ความรับผิดชอบทางกฎหมายของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย หากผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายเกิดข้อบกพร่องหรืออันตรายจนทำให้ผู้บริโภคได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย

ประกันนี้จะช่วยรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย ค่าทนายความ และค่าเสียหายอื่น ๆ ที่อาจตามมา

ข้อดีของประกันความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์

1. คุ้มครองความเสี่ยงทางกฎหมาย ช่วยจ่ายค่าชดเชย ค่าทนาย และค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี
2. ปกป้องธุรกิจจากการฟ้องร้อง ลดภาระทางการเงินหากผลิตภัณฑ์เกิดปัญหาหรือก่อให้เกิดอันตราย
3. เสริมความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ลูกค้าและคู่ค้าจะมั่นใจในความรับผิดชอบและความปลอดภัยของสินค้า
4. คุ้มครองได้แม้หลังการขาย บางกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองเหตุที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ผลิตภัณฑ์จำหน่ายไปแล้ว

ทำไมควรทำประกันความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์

• ลดความเสี่ยงทางการเงินและชื่อเสียงของธุรกิจ หากสินค้าเกิดข้อบกพร่อง
• ป้องกันภาระค่าใช้จ่ายจากการฟ้องร้อง ที่อาจมีมูลค่าสูง
• ตอบโจทย์ข้อกำหนดทางกฎหมายหรือมาตรฐานอุตสาหกรรม ที่บางแห่งบังคับให้ต้องมีประกันประเภทนี้

ประกันไซเบอร์

ประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครอง ความเสียหายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การแฮ็กข้อมูล การโจมตีระบบ (Cyber Attack) หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งทางการเงิน ชื่อเสียง และความเชื่อมั่นขององค์กร

ข้อดีของประกันไซเบอร์

1. คุ้มครองความเสี่ยงทางไซเบอร์ ครอบคลุมความเสียหายจากการขโมยข้อมูล การรั่วไหล หรือการโจมตีระบบ
2. ช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูระบบ เช่น ค่าบริการตรวจสอบ ค่ากู้ข้อมูล และค่าซ่อมแซมระบบหลังถูกแฮ็ก
3. คุ้มครองค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย หากเกิดการละเมิดข้อมูลหรือถูกฟ้องร้องจากผู้เสียหาย
4. ช่วยฟื้นฟูชื่อเสียงขององค์กร ประกันบางแบบครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์หรือบริหารจัดการวิกฤตหลังเกิดเหตุ

ทำไมควรทำประกันไซเบอร์

• เพิ่มความปลอดภัยในยุคดิจิทัล ปกป้องข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินสำคัญขององค์กร
• ความเสี่ยงทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีข้อมูลลูกค้าหรือทำธุรกรรมออนไลน์
• รองรับข้อกำหนดทางกฎหมาย ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล เช่น PDPA หรือ GDPR